เมื่อหนังใหม่ต้องการฉายชนโรง แต่ว่าโรงไม่ให้ชน

พอดิบพอดีจริงๆที่เนื้อหานี้เสมือนเป็นภาคต่อของบทความ นอนดูหนังใหม่ชนโรงที่บ้านแบบสุขใจ คนไหนกันแน่ได้? ผู้ใดกันแน่เสีย? ท่านสามารถย้อนไปอ่านได้ก่อนจะฝ่ากันที่ย่อหน้าต่อไป

ภายหลังที่ผมเคยเอ่ยถึงอนาคตของการดูหนังที่บ้านแล้วก็แนวทางยึดโลกภาพยนตร์ของ Netflix ที่ผันตัวจากผู้ให้บริการสตรีมมิ่งเปลี่ยนมาเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ แล้วก็มานะจะเติบโตแปลงเป็นบริษัทหนัง เมื่อยาวนานหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ชัยหนึ่งของ Netflix เป็นการที่หนัง Netflix Original Films (ภาพยนตร์ปริมาณยาวที่ผลิตขึ้นเพื่อฉายใน Netflix โดยยิ่งไปกว่านั้น มีคุณภาพงานสร้างเสมือนหนังโรงธรรมดาทั่วๆไป ก็แค่ไม่ฉายโรง) ได้ได้โอกาสเข้าสายแข่งขันหลักชิงปาล์มทองถึง 2 เรื่อง โน่นเป็น Okja หนังใหม่ของผู้กำกับประเทศเกาหลีโด่งดัง บองจุนโฮ ( Memories of Murder 2003, The Host 2006, Snowpiercer 2013) และก็หนังเรื่อง The Meyerowitz Stories หนังใหม่ของโนอาห์ บอมบัค (Margot at the Wedding 2007, Frances Ha 2012)

งานนี้นับว่าสร้างแรงสั่นมากสู่แวดวงภาพยนตร์ เนื่องจากนี่เป็นเครื่องรับรองว่า Netflix จะมายึดโลกแล้วจริงๆเพราะเหตุว่าหนังของพวกเขากระโจนออกมาจากแพลตฟอร์มเล็กๆของตนเอง เพื่อฟาดหน้าแข้งกับหนังทั่วๆไปในสนามธรรมดา จากที่คนจะมีความคิดว่าหนัง Netflix ก็คือหนังโทรทัศน์หรือหนังออนไลน์ การที่มันได้เข้าสายแข่งขันหลักนั้นทำให้ความหมายของ ‘ภาพยนตร์ปริมาณยาว’ ที่พวกเราเคยรู้เรื่องนั้นแปรไปอย่างยิ่ง รวมทั้งนี่เป็นปริศนาสำคัญที่เป็นชนวนของสถานะการณ์ในคราวนี้ หนังตลก

ธรรมดาสำหรับการรับทราบคำว่า ‘ภาพยนตร์ปริมาณยาว’ นั้น หนังบางครั้งอาจจะเปิดตัวในโรงหนังทั่วๆไปหรือไปฉายเทศกาลหนัง ก่อนที่จะท้ายที่สุดจะถูกขายต่อในแบบดีวีดี หรือสตรีมมิ่งเซอร์วิสในอีกนับเป็นเวลาหลายเดือนต่อมาข้างหลังออกมาจากโรง รวมทั้งโดยธรรมดาแล้วภาพยนตร์ปริมาณยาวที่ว่า ก็ชอบมีคุณภาพไม่เหมือนกับหนังทีวี หนังทำลงแผ่นดีวีดี หรือหนังออนไลน์อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเกิดเรื่องวัสดุอุปกรณ์ถ่ายทำที่ดียิ่งกว่า หรือดาราหนังบิ๊กเนมที่ดังกว่านักแสดงทีวี สิ่งกลุ่มนี้ส่งผลกระทบในการตัดสินใจของผู้ชมอย่างยิ่ง

ยกตัวอย่างเช่น บางคราวพอเพียงคนกำเนิดทราบมาว่าหนังเรื่อง ก เป็นหนังทำลงแผ่นโดยยิ่งไปกว่านั้น ก็จะมีความรู้สึกว่าหนังไม่ดี หรือเป็นหนังฟอร์มเล็ก ไม่คุ้มขณะที่จะมอง หรือไว้มองบนรถทัวร์รวมทั้งเรือบินเพื่อฆ่าเวลาก็พอเพียง (แต่ว่าที่บอกๆเนี่ย ตนเองยังมิได้ดูหนังเลยนะ วินิจฉัยจากภาพลักษณ์ด้านนอกล้วนๆ) แต่ว่ามาวันหนึ่งทุกสิ่งแปรไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือ เครื่องใช้ไม้สอยที่ใช้ทำภาพยนตร์โรงเป็นตัวเดียวกับหนังโทรทัศน์ เนื่องจากราคามันถูกลง ผู้กำกับบางบุคคลถูกว่าจ้างไปทำหนังโทรทัศน์หรือซีรีส์ รวมทั้งงานพวกนั้นดันออกมาคุณภาพดีกว่าหนังโรง (อาจเกิดขึ้นเนื่องจากผู้กำกับไม่ต้องนอยด์มากมายเท่าตอนทำหนังโรง ด้วยเหตุว่าลงทุนน้อยกว่า ทำให้มีอิสระสำหรับการประดิษฐ์เนื้อหาใหม่ๆเจ๋งๆขึ้นมา) ศิลปินดาราหนังบางบุคคลคงจะเล่นหนังมาร์เวลกระทั่งเบื่อ ก็ต้องการลองเล่นหนังเล็กๆบ้าง ค่าตอบแทนบางทีอาจจะน้อยกว่า แม้กระนั้นวันถ่ายทำก็น้อยตาม รวมทั้งได้เล่นบทที่นานาประการบ้าง จบที่ว่าหนังสตรีมมิ่งบางเรื่องสร้างกระแสได้เสมอกันหนังโรงธรรมดา หนังเล็กบางเรื่องทำเงินได้มากกว่าหนังใหญ่ ด้วยเหตุนี้ เส้นแบ่งระหว่างหนังโรงกับหนังไม่โรงแล้วก็ค่อยๆเลือนหายไปเรื่อยจนกระทั่งเหลือเพียงแค่ ‘หนังที่ดี’ กับ ‘หนังที่ไม่ดี’ แค่นั้นเลย มองที่แหน่งใดก็ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป

ฟังแล้วดูดีและก็น่าเห็นด้วยขอรับ บางเวลาหนังเล็กๆความคิดดีๆบางเรื่องก็ผิดผลิตออกมาเนื่องจากว่าสตูดิโอไม่เห็นพ้องหรือเปล่าต้องการลงทุนกับอะไรเล็กๆทุกคนก็มีสิทธิ์จะหาทางผลิตงานชิ้นนั้นออกมาในวิธีการของตนเอง จะเล็กจะใหญ่ พวกเราก็หนังแบบเดียวกันรวมทั้งมีสิทธิ์ลงเตะในสนามเดียวกัน เอาเข้าจริงผมมั่นใจว่าผู้กำกับทุกคนต้องการให้งานตนเองได้ฉายในโรงธรรมดานั่นแหละนะครับ แต่ว่าโรงภาพยนต์ก็ไม่สามารถที่จะเอาหนังทุกเรื่องเข้าฉายได้ด้วยเหมือนกัน สิทธิ์สำหรับเพื่อการได้ฉายหรือเปล่าฉายก็ขึ้นกับผู้ครอบครองโรงตรึกตรองอีก ทั้งหมดทั้งปวงนี้ทำให้จะต้องสารภาพว่ามาตรฐานรวมทั้งสิทธิ์สำหรับในการได้ฉายโรงของหนังแต่ละเรื่องแตกต่างกันอยู่, โชคดีมากมายที่ยุคนี้ผู้ชมเริ่มให้การเห็นด้วยการดูหนังผ่านหน้าจอคอม จอทีวี และก็จอมือถือ มากยิ่งขึ้น ก็เลยเป็นจังหวะให้หนังเล็กๆที่ไม่มีโอกาสได้ไปฉายที่โรงหนังธรรมดามีสิทธิ์สร้างที่ดินและก็พาหนังของตนให้ไปถึงสายตาผู้ชมมากขึ้นเรื่อยๆผ่านโลกอินเตอร์เน็ต และก็สามารถสร้างรายได้จำพวกที่อยู่ได้ด้วยตัวเองจากการฉายผ่านวิถีทางกลุ่มนี้ด้วย

ความประพฤติปฏิบัติของผู้ชมที่แปรไปทำให้หนังหน้าจอเล็กมีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆมากมาย แถมตัว Netflix ก็เริ่มลดการซื้อหนังที่ลาโรงไปแล้วมาฉาย หันไปทุ่มทุนสร้างภาพยนตร์ของตนขึ้นมาเพื่อป้อนกลุ่มชนมองออนไลน์โดยยิ่งไปกว่านั้น หนังที่สร้างออกมานั้นก็มองฟอร์มดีมีดาราดังไม่ต่างอะไรจากหนังโรงทั่วๆไป แถมข้อเสนอแนะสำหรับการสร้างของ Netflix นั้นเป็นที่เย้ายวนแล้วก็ยั่วยวนใจให้ผู้กำกับต่างๆต้องการเข้าไปร่วมงานเป็นอันมาก (บองจุนโฮออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เขาทราบว่าหนังเรื่อง Okja บางครั้งก็อาจจะได้ฉายเพียงแค่ในหนทางออนไลน์ แม้กระนั้นสำหรับเขาในฐานะผู้กำกับแล้ว เขาก็ยังต้องการทำมากมาย เนื่องจากว่าทาง Netflix ให้อิสระเยอะแยะและเงินลงทุนที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์การผลิตหนังประเทศเกาหลี หากหนังหัวข้อนี้ออกมาไม่ดี มาโทษเขาได้เลย 100 เปอร์เซ็นต์) ว่านอนสอนง่ายๆเป็น Netflix กำลังจะสร้างทั้งยังหนังรวมทั้งโรงภาพยนต์ขึ้นมาพร้อมแบบเบ็ดเสร็จทีเดียว แล้วก็พร้อมจะกักบริเวณผู้ชมให้อยู่กับ Netflix ตลอดระยะเวลาโดยไม่ให้จะต้องไปโรงภาพยนต์อีกเลย ซึ่งก็อาจจะช่างเถอะหรอก หาก Netflix สร้างเองแล้วจบอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ต แม้กระนั้นผู้กระทำระกระโดดออกมาชิงกับหนังธรรมดาในเวทีแข่งขันระดับนานาชาตินี่เป็นความเกเร คนเสียผลดีซึ่งเป็นผู้ครอบครองโรงหนังรวมทั้งสตูดิโอภาพยนตร์ก็เลยไม่ยินยอมอีกต่อไป, ปัญหาที่เทศกาลคานส์ปีนี้เริ่มนี้