องค์ประกอบอื่นๆ ภายในห้องครัวที่คุณควรนำมาพิจารณาประกอบการเลือกซื้อก็อกน้ำ

1.จุดติดตั้งก๊อกน้ำ จุดติดตั้งก๊อกน้ำคือขั้นตอนแรกที่ควรคำนึงถึง ซึ่งหากแบ่งตามลักษณะของการติดตั้งจะมีผลิตภัณฑ์ให้คุณเลือกซื้อไปใช้งานอยู่ 2 แบบ คือก๊อกน้ำแบบติดบนเคาน์เตอร์ ซึ่งมีรูปทรงและคุณสมบัติที่หลากหลาย และติดตั้งง่าย ส่วนก๊อกน้ำแบบติดผนังจะเหมาะกับการใช้งานในห้องครัวขนาดกะทัดรัด โดยนอกจากจะช่วยประหยัดพื้นที่แล้ว ยังช่วยให้ทำความสะอาดบริเวณรอบอ่างล้างจานได้ง่ายขึ้นด้วย
2.ขนาดของก๊อกน้ำ การเลือกขนาดของก๊อกน้ำควรพิจารณาจากขนาดของอ่างล้างจานว่ามีขนาดใหญ่มากน้อยเพียงใด และมีจำนวนกี่หลุม นอกจากนี้ยังควรพิจารณาขนาดของอุปกรณ์เครื่องครัวที่คุณใช้งานอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นหม้อ กระทะ หรือถ้วยชามด้วย โดยก่อนติดตั้งอย่าลืมตรวจวัดความสูงต่ำของก๊อกน้ำ เพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในระดับที่ใช้งานได้ครอบคลุมพื้นที่บริเวณอ่างล้างจานหรือไม่
3.จำนวนก้านจับ/หัวหมุน จำนวนก้านจับหรือหัวหมุนของก๊อกน้ำมีตั้งแต่ 1-3 ก้าน โดยก๊อกน้ำแบบก้านจับเดียวจะช่วยให้คุณใช้งานได้สะดวกรวดเร็ว เพียงปัดก้านโยกหรือหมุนเปิดปิดเพียงครั้งเดียว ก๊อกน้ำสองก้านจับเหมาะสำหรับการควบคุมอุณหภูมิและปริมาณการไหลของน้ำร้อนและน้ำเย็นได้ดี ส่วนก๊อกน้ำแบบสามก้านจับจะเพิ่มคุณสมบัติการควบคุมเครื่องกรองน้ำเข้ามาด้วย
4.คุณสมบัติพิเศษอื่นๆ ก๊อกน้ำบางรุ่นได้รับการออกแบบมาให้มีคุณสมบัติพิเศษอื่นๆ เพื่อเติมเต็มความสะดวกสบายในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นก๊อกน้ำซิงก์แบบผสมมีสายงวงดึงได้ ช่วยให้ควบคุมทิศทางการไหลของน้ำได้ดีขึ้น เหมาะกับการล้างกระทะหรือหม้อใบใหญ่ๆ สำหรับก๊อกน้ำอัตโนมัติจะช่วยเพิ่มความสะดวกในขณะที่มือของคุณกำลังเลอะจากการทำอาหาร ส่วนใครที่ชอบความครบครัน ก๊อกน้ำแบบมีระบบกรองน้ำน่าจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่สุด เพราะมีทั้งระบบน้ำร้อน น้ำเย็นและเครื่องกรองในตัว นอกจากนี้ก๊อกน้ำบางรุ่นยังออกแบบมาพร้อมกับเครื่องปั๊มสบู่ ซึ่งย่อมเพิ่มความสะดวกในการใช้งานได้ไม่น้อยทีเดียว

เมื่อเลือกก๊อกน้ำที่มีรูปแบบและฟังก์ชั่นครบตามต้องการได้แล้ว ท้ายที่สุดอย่าลืมพิจารณาถึงความสวยงามทั้งดีไซน์ สีสันและวัสดุให้เหมาะกับรสนิยม และเข้ากับการตกแต่งโดยรวมของห้องครัวของคุณเองด้วย ซึ่งด้วยทุกขั้นตอนที่นำมาฝากนี้เชื่อว่าจะช่วยให้คุณเลือกสรรก๊อกน้ำไปใช้งานในห้องครัวได้อย่างมั่นใจ สะดวกและคุ้มค่ากับการใช้สอยอย่างแน่นอน